๓.๒ การประปานครหลวงอาจส่ง โอน หรือ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคล หน่วยงาน องค์กร นิติบุคคลภายนอกใด ๆ อาทิ
๓.๓ การประปานครหลวงจะดำเนินการ ตามข้อ ๓.๑ ๓.๒ เมื่อได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ยกเว้นในกรณีดังต่อไปนี้
๓.๔ การประปานครหลวงจะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกัน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยชัดแจ้งเท่านั้น หรือโดยข้อยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนด
๓.๕ ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลละเมิดต่อกฎหมายได้ หรือ ไม่สามารถทำธุรกรรมหรือได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ นอกจากนี้ การที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญากับการประปานครหลวง ย่อมส่งผลให้ถูกปฏิเสธการเข้าทำสัญญาหรือรับชำระหนี้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับการประปานครหลวง
ข้อ ๔ การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
การประปานครหลวงจะรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วยการกำหนดมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการ วิธีปฏิบัติ และสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด หรือสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
การประปานครหลวงจะมีการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด ดังนี้
๔.๑ เงื่อนไขในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การกำหนดชั้นความลับ วิธีการเข้าถึงข้อมูลและการจำกัดการเข้าถึงข้อมูล เป็นต้น
๔.๒ กระบวนการรองรับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทางกายภาพ จัดให้มีสถานที่ ที่เหมาะสมและปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลหรือเอกสารต่าง ๆ และกำหนดกระบวนการลบหรือทำลายข้อมูลและอุปกรณ์เมื่อหมดความจำเป็นหรือได้รับการร้องขอจากเจ้าของข้อมูล
๔.๓ กระบวนการรองรับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การแฝงข้อมูล (Pseudonymization) การจัดทำข้อมูลนิรนาม (Anonymization)และการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption) เป็นต้น
๔.๔ กำหนดแผนการรับมือและแก้ไข กรณีมีการรั่วไหล หรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
๔.๕ กำหนดมาตรการเชิงเทคนิคและเชิงบริหารจัดการ เพื่อรักษาความปลอดภัยในการดำเนินงานที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เหมาะสมกับการบริหารความเสี่ยงของการประปานครหลวงตามมาตรฐานสากล
๔.๖. การประปานครหลวงจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
๔.๖.๑ กรณีที่มีกฎหมายกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บไว้โดยเฉพาะ การประปานครหลวงจะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามกรอบระยะเวลาดังกล่าว
๔.๖.๒ กรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ การประปานครหลวงจะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าวข้างต้น การประปานครหลวงจะพิจารณาลบทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่เหมาะสม
ข้อ ๕ สิทธิของเจ้าของข้อมูล
เจ้าของข้อมูลสามารถร้องขอให้การประปานครหลวงดำเนินการตามสิทธิของเจ้าของข้อมูล ดังนี้
๕.๑ สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือชี้แจงถึงการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม โดยการประปานครหลวงจะจัดเตรียมหรือจัดทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามช่องทางการสื่อสารของการประปานครหลวง
ทั้งนี้ การประปานครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาลหรือการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
๕.๒ สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงเป็นปัจจุบัน ครบถ้วนสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยจะต้องนำหลักฐานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องมาแสดง หากการประปานครหลวงเห็นว่าการขอแก้ไขข้อมูลนั้นไม่มีเหตุผลเพียงพอ การประปานครหลวงจะปฏิเสธคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลและจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน
๕.๓ สิทธิในการลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวตนของข้อมูลได้
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้โดยการประปานครหลวงจะดำเนินการตามคำร้องภายใต้เงื่อนไข ดังนี้
(๑) เมื่อหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์
(๒) เจ้าของข้อมูลเพิกถอนความยินยอม และการประปานครหลวงไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการจัดเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
(๓) เจ้าของข้อมูลคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม และการประปานครหลวงไม่สามารถคัดค้านได้
(๔) ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ การประปานครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ ดังนี้
(ก) การเก็บรักษาไว้เพื่อความจำเป็นในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
(ข) การเก็บรักษาไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ จดหมายเหตุ ฯลฯ
(ค) การเก็บรักษาไว้เพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของการประปานครหลวง หรือปฏิบัติตามอำนาจรัฐที่การประปานครหลวงได้รับมอบหมาย
(ง) การเก็บรักษาข้อมูลที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน อาชีวเวชศาสตร์ ประโยชน์ด้านการสาธารณสุขและอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด
(จ) การใช้เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามกฎหมาย
๕.๔ สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
กรณีเจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไว้กับการประปานครหลวง เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอเพิกถอนความยินยอมนั้นได้ โดยการประปานครหลวงจะดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลแต่การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการอื่นใดที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมนั้น ทั้งนี้ การประปานครหลวงมีสิทธิปฏิเสธคำร้องขอ หากมีข้อจำกัดสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมโดยกฎหมาย หรือ สัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
๕.๕ สิทธิในการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านหรือใช้งานจากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทำงานได้โดยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอตรวจสอบการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
๕.๕.๑ ต้องเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
๕.๕.๒ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นต่อการให้บริการ หรือตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลและการประปานครหลวง ตามข้อ ๓.๓.๒
ทั้งนี้ การประปานครหลวงจะปฏิเสธการขอรับหรือโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือในทางเทคนิคไม่สามารถดำเนินการได้โดยการประปานครหลวงจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน
๕.๖ สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอห้ามมิให้การประปานครหลวง ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไข ดังนี้
๕.๖.๑ การประปานครหลวงอยู่ระหว่างดำเนินการ ตามข้อ ๕.๒ หากตรวจสอบได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว การประปานครหลวงสามารถปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าวได้
๕.๖.๒ เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและเจ้าของข้อมูลไม่ได้ใช้สิทธิขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ตามข้อ ๕.๓ (๔) แต่เจ้าของข้อมูลให้ระงับการใช้แทน ทั้งนี้การประปานครหลวงจะปฏิเสธคำร้องขอดังกล่าว หากสามารถอ้างหลักฐานทางกฎหมายอื่นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
๕.๖.๓ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แต่เจ้าของข้อมูลขอให้เก็บรักษาไว้ เพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
๕.๖.๔ การประปานครหลวงอยู่ระหว่างการพิสูจน์เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของเจ้าของข้อมูล ตามสิทธิข้อ ๕.๗
๕.๗ สิทธิในการคัดค้าน
เจ้าของข้อมูลสามารถยื่นคำร้องขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
๕.๗.๑ เพื่อการปฏิบัติภารกิจของรัฐและเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม ตามข้อ ๓.๓.๓และ ๓.๓.๔ ทั้งนี้ การประปานครหลวงจะปฏิเสธการคัดค้าน หากพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญกว่าหรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
๕.๗.๒ เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ การประปานครหลวงจะปฏิเสธการคัดค้าน หากมีความจำเป็นในการดำเนินตามภารกิจ เพื่อประโยชน์สาธารณะของการประปานครหลวง
โดยการประปานครหลวงจะบันทึกเหตุผลในการปฏิเสธคำร้องขอไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ หากไม่เข้าข้อยกเว้นการปฏิเสธการคัดค้านการประปานครหลวงจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อไป โดยจะแยกส่วนออกจากข้อมูลอื่นอย่างชัดเจน เมื่อเจ้าของข้อมูลได้แจ้งการคัดค้าน ให้การประปานครหลวงทราบ
๕.๘ สิทธิการได้รับแจ้งข้อมูล
เจ้าของข้อมูลมีสิทธิจะได้รับแจ้งข้อมูล กรณีที่การประปานครหลวงได้รับข้อมูลจากเจ้าของข้อมูลโดยตรง หรือได้รับจากบุคคลที่สาม ตามช่องทางสื่อสารของการประปานครหลวง
๕.๙ สิทธิในการร้องเรียน
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ข้อ ๖ ข้อสงวนสิทธิ
การประปานครหลวงขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอตามข้อ ๕ กรณีดังต่อไปนี้
๖.๑ กฎหมายกำหนดให้สามารถดำเนินการได้
๖.๒ ข้อมูลส่วนบุคคลถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อ หรือบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้
๖.๓ ผู้ยื่นคำร้องไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของข้อมูลหรือเป็นผู้มีอำนาจในการยื่นคำร้องขอ ดังกล่าว
๖.๔ คำร้องขอดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล เช่น กรณีที่ผู้ร้องขอไม่มีสิทธิตามกฎหมาย หรือไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ที่การประปานครหลวง เป็นต้น
๖.๕ คำร้องขอดังกล่าวเป็นคำร้องขอฟุ่มเฟือย เช่น เป็นคำร้องขอที่มีลักษณะเดียวกัน
หรือเนื้อหาเดียวกันซ้ำ ๆ กันโดยไม่มีเหตุอันสมควร เป็นต้น
๖.๖. การประปานครหลวงอาจกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิตามหลักเกณฑ์ที่การประปานครหลวงกำหนด
ข้อ ๗ การปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
๗.๑ การประปานครหลวงจะปรับปรุงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายและการดำเนินงานของการประปานครหลวง รวมถึงอาจปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเสนอแนะจากเจ้าของข้อมูล โดยการประปานครหลวงจะประกาศแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนก่อนเริ่มดำเนินการ หรืออาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยตรงตามช่องทางการสื่อสารของการประปานครหลวง
๗.๒ ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ สามารถติดต่อมายังการประปานครหลวง หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ตามช่องทางดังนี้
อาคารสำนักงานใหญ่การประปานครหลวง
เลขที่ ๔๐๐ ถนนประชาชื่น แขวงทุ่งสองห้อง
เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๑๐
เว็บไซต์ https://www.mwa.co.th
อีเมล์ mwadpo@mwa.co.th